การสื่อสาร(การพูดและเขียน)มีบทบาทสำคัญต่องานวิจัยอย่างไร?
“การพูด”
คือ การที่มนุษย์เปล่งเสียงเป็นถ้อยคำภาษาออกมา
เพื่อแสดงความรู้ ความคิด
ความรู้สึกหรือความต้องการของผู้พูดไปให้ผู้ฟังได้ยินและเข้าใจ โดยอาศัยภาษา
น้ำเสียง ท่าทาง เป็นสื่อและมีการตอบสนองจากผู้ฟัง
ความมุ่งหมายของการพูด
คือ
การแสดงหรือเสนอข้อคิดเห็นต่อผู้ฟัง
และผู้ฟังสามารถรับรู้เรื่องราวและเข้าใจได้ตรงกับความต้องการของผู้พูด
ตลอดจนนำไปปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลักษณะการพูดที่ดี
มีถ้อยคำดี คือ การพูดด้วยถ้อยคำที่ไพเราะ
พูดจาสุภาพอ่อนหวาน การพูดนั้นจะต้องไตร่ตรองก่อนพูดทุกครั้ง พูดแต่ความจริง
มีประโยชน์ คือ จะต้องคำนึงถึงความเหมาะสมดังต่อไปนี้ เหมาะสมกับกาล
เหมาะ สมกับกาลเทศะ เหมาะสมกับบุคคล
มีความมุ่งหมาย คือ จะช่วยให้การพูดได้เนื้อหาสาระได้ครบและครอบคลุมทั้งหมด ที่สำคัญไม่เสียเวลาในการนำเสนอ
มีศิลปะ คือ
การใช้สีหน้า ท่าทาง น้ำเสียง รวมทั้งจิตวิทยาในการพูดด้วย
“การเขียน”
คือ
การแสดงความรู้ ความคิด และความต้องการ ของผู้ส่งสารออกไปเป็นลายลักษณ์อักษร
เพื่อให้ผู้รับสารอ่านเข้าใจ ได้รับทราบความรู้ ความคิด ความรู้สึก ซึ่งในการใช้ภาษาเขียนนั้นจะต้องอาศัยความรู้พื้นฐานจากการฟัง
การพูด การอ่าน ในการสะสมความรู้ ข้อมูล ถ่ายทอดความคิดออกมา
สื่อสารกับผู้อ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลักษณะการเขียนที่ดี
การนำหลักการ/ทฤษฎี มาใช้อย่างเหมาะสม
ในการศึกษาวิจัย จะต้องมีการวิเคราะห์เจาะลึก โดยมีหลักการ/ทฤษฎีมารองรับ
การแสดงความคิดเห็นอย่างเหมาะสม ผู้เขียนจะต้องเสนอวิธีการที่น่าเชื่อถือ ต้องชี้แจงแสดงเหตุผลอย่างเหมาะสม
ความสมบูรณ์และความถูกต้อง ส่วนของเนื้อหาสาระ จะต้องมีข้อเท็จจริงพร้อมกำหนดการอ้างอิงที่มาเพื่อความน่าเชื่อถือ
จะต้องมีการลำดับเหตุการณ์ ต้องดำเนินเนื้อเรื่องให้ชัดเจน และเข้าใจง่าย
มีความเหมาะสมในการจัดเค้าโครงเรื่อง ต้องเป็นระเบียบ ไม่ซ้ำซ้อนทำให้สับสน
การแสดงความคิดเห็นอย่างเหมาะสม ผู้เขียนจะต้องเสนอวิธีการที่น่าเชื่อถือ ต้องชี้แจงแสดงเหตุผลอย่างเหมาะสม
ความสมบูรณ์และความถูกต้อง ส่วนของเนื้อหาสาระ จะต้องมีข้อเท็จจริงพร้อมกำหนดการอ้างอิงที่มาเพื่อความน่าเชื่อถือ
จะต้องมีการลำดับเหตุการณ์ ต้องดำเนินเนื้อเรื่องให้ชัดเจน และเข้าใจง่าย
มีความเหมาะสมในการจัดเค้าโครงเรื่อง ต้องเป็นระเบียบ ไม่ซ้ำซ้อนทำให้สับสน
การพูด…การเขียน…ต่องานวิจัย
ในการพูดนำเสนอผลงานวิจัยนั้น
ผู้นำเสนอจะต้องมีความพร้อมทุกด้าน เริ่มจากการเขียนชิ้นงาน การเตรียมเนื้อหาที่เป็นความจริงและเป็นประโยชน์ต่อผู้ฟัง
มีการนำหลักการ/ทฤษฎีมาประกอบในการคิดวิเคราะห์ พร้อมการอ้างอิงที่มาของข้อมูล จากนั้นผู้วิจัยต้องเรียงลำดับเนื้อเรื่องที่ชัดเจน
เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องราวได้เป็นอย่างดี ในส่วนถัดมาคือ ผู้วิจัยจะต้องเตรียมบุคลิกภาพให้มีความพร้อมทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
เพราะเป็นส่วนที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้ฟังเห็นแล้วเกิดความเชื่อถือ ในตัวของผู้วิจัย
ซึ่งเป็นจุดเด่นของตัวผู้วิจัยที่ผู้ฟังเขามองเห็นและสัมผัสได้ทุกอิริยาบถที่เราได้นำเสนอออกไป
ในการนำเสนอนั้น ผู้วิจัยต้องใช้ภาษาและถ้อยคำที่สุภาพ
พูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ฟัง มีการทอดน้ำเสียงอย่างนุ่มนวล สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นจุดสำคัญมากที่ผู้วิจัยต้องตระหนักและใส่ใจให้ตนเองมีความพร้อม
ทุกสิ่งถูกเตรียมพร้อม ก็จะทำให้การรายงานวิจัยดำเนินลุล่วงไปด้วยดีทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ
เป็นการสร้างความประทับใจให้กับผู้ฟังและเชื่อถือในผลงานวิจัย ว่าประสิทธิภาพพร้อมที่จะนำงานวิจัยไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริงในสังคมไทย
“งานวิจัย บวก ความใส่ใจ เท่ากับ มีประสิทธิภาพ”